ถ้าผม มีโอกาสได้รับทุนการศึกษา ผมจะพยายามตั้งใจเรียนให้เต็มที่
เป็นคนดี ฝึกฝนตนเองด้านดนตรีให้เก่งๆ ผมขอเพียงอย่างน้อยได้มีโอกาส
ได้เรียนให้สูงที่สุดเท่าที่ความสามารถตัวเองจะมี เพราะการเรียนเป็นสิ่งสำคัญต่ออนาคต
และทำให้มีงานดีๆ ทำ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ และดูแลคุณตา คุณายายต่อไป

น้องปิ๊ก หรือ ด.ช.รัตพล อายุ 13 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.1 จากจังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันอาศัยอยู่กับ พ่อแม่ และตายาย น้องปิ๊กเป็นลูกคนเดียว แต่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์น้องอีก 1 คน พ่อกับแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยทุกวันนี้ทำงานรับจ้างที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยว
ก่อนหน้านี้พ่อเคยเร่ขายไส้กรอกปิ้งแต่ขาดทุนจึงต้องหยุดขายไป ส่วนแม่ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว จึงต้องหยุดทำงาน ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ไปส่วนหนึ่ง ขณะที่ตาและยายก็ทำงานหนักไม่ได้เพราะอายุมากแล้ว โดยเฉพาะยายซึ่งเจ็บป่วยหลายโรคและต้องไปหาหมออยู่เป็นประจำ


นอกจากเรียนหนังสือ น้องปิ๊กยังมีความสามารถพิเศษด้านดนตรี และเป็นักดนตรีวงโธวาทิต ของโรงเรียน เล่นได้ทั้งเล่นกลองใหญ่ และกลองชุด ซึ่งล่าสุดวงโยธวาทิตของโรงเรียนได้ไปร่วมแข่งขันในระดับจังหวัด และได้รางวัลชนะเลิศลำดับที่ 2 อีกด้วย
หลังเลิกเรียนน้องปิ๊กมักจะซ้อมดนตรีที่โรงเรียน กับเพื่อนๆ ในวงโยธวาทิต หลังจากนั้นจึงไปช่วยพ่อ ทำงานรับจ้างที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เช่นเสิร์ฟ และล้างจาน ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 80-100 บาท โดยเฉพาะช่วงนี้ที่แม่ไม่สามารถทำงานได้น้องปิ๊กจึงต้องมาช่วยพ่อทำงานแทบทุกวัน
น้องปิ๊กมีความฝันอยากเป็นนักดนตรี หรือดุริยางค์ทหาร จึงอยากเรียนต่อ
ให้จบชั้นมัธยมศึกษาเพื่อสอบเรียนต่อตามที่ตั้งใจ คุณครูเห็นถึงความกตัญญู และความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงของเขา จึงได้ส่งใบสมัครเพื่อขอรับทุนจากมูลนิธิ EDF ในปีการศึกษา 2563 ที่กำลังจะมาถึงนี้
น้องปิ๊กเขียนในจดหมายขอทุนข้อความตอนหนึ่งว่า “ถ้าผม มีโอกาสได้รับทุนการศึกษา ผมจะพยายามตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เป็นคนดี ฝึกฝนตนเองด้านดนตรีให้เก่งๆ ผมขอเพียงอย่างน้อยได้มีโอกาสได้เรียนให้สูงที่สุดเท่าที่ความสามารถตัวเองจะมี เพราะการเรียนเป็นสิ่งสำคัญต่ออนาคต และทำให้มีงานดีๆ ทำ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ และดูแลคุณตา คุณายายต่อไปครับ”


